หากการสอบ “IELTS” เปรียบเสมือนการทำ “สงคราม”
.
ถ้าคุณมองตัวเองเป็นเพียง “พลทหาร” ที่เฟ้นหาเพียง “ยุทโธปกรณ์” เพื่อออกไปรบที่ “แนวหน้า”
.
คงไม่ได้ผลเท่าการสู้ศึกครั้งนี้ด้วยวิสัยทัศน์ระดับ “ผู้บัญชาการรบ”
.
พลทหาร รู้ “วิธีทำ”
.
ผู้บัญชาการ รู้ “วิธีคิด”
.
IELTS คือการต่อสู้กับ “วิธีคิด” ของคนออกข้อสอบ
.
หากคุณรู้เพียง “วิธีทำ” เพื่อสู้กับคนที่ใช้ “วิธีคิด”
.
คงไม่เฉียบคมเท่าการเรียน “วิธีคิด” เพื่อสู้กับ “วิธีคิด” ในศึกครั้งนี้
.
ข้อสอบ IELTS Listening แท้จริงทดสอบอะไร?
.
นี่คือคำถามสำคัญที่ผู้เข้าสอบต้องตอบให้ได้ ก่อนจะเงี่ยหูฟังคลิปเสียงในห้องสอบ
.
บางคนเชื่อว่าข้อสอบ IELTS Listening ทดสอบการฟังเพื่อ “ทำความเข้าใจ” (Listening Comprehension)
.
ทว่าในความเป็นจริงนั้น ข้อสอบ IELTS Listening เป็นการทดสอบการจับคู่คำคล้าย/คำเหมือน (Synonym Matching) และ การเขียนตามคำบอก (Dictation)
.
ดังที่ “ซุนวู” นักปราชญ์เลื่องชื่อ ผู้เขียนตำราพิชัยสงครามของจีน ได้ให้ข้อคิดว่า…
.
“รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง”
.
“รู้เขา” คือ การรู้ทิศทางคนออกข้อสอบ ย่อมทำให้ชนะศึกได้โดยง่าย
.
เมื่อคุณรู้ว่า ในการสอบ IELTS Listening สิ่งที่ต้องโฟกัสมีเพียง Synonym และ Dictation
.
คุณก็ไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องเสียพลังการ ในการโฟกัสด้าน Listening Comprehension เลยแม้แต่น้อย
.
เปรียบเสมือนการรู้ “ทิศทางลม” ยามสู้รบ
.
ขอเพียงรอจังหวะที่ลมพัดไปทางฐานที่มั่นของข้าศึก
.
แล้วหาจังหวะจุดเชื้อไฟ ให้เปลวไฟแผดเผาศัตรู โดยคุณไม่สูญเสียชีวิตพลทหาร
.
ก็เท่ากับไม่เสียพลังงานสมองด้าน Listening Comprehension
.
แต่ในทางตรงกันข้าม
.
หากจ้องแต่จะใช้เพียง “เครื่องมือ” หรือ “ยุทโธปกรณ์” โดยไม่มองทิศทางลม
.
แล้วลงมือด้าน Listening Comprehension เพียงอย่างเดียว
.
โดยไม่ได้คำนึงถึง Synonym Matching และ Dictation ซึ่งเป็นหลุมพรางที่ฝ่ายตรงข้าม หรือ คนออกข้อสอบ ได้วางหมากเอาไว้
.
คุณก็อาจเพลี่ยงพล้ำแก่ข้อสอบ
.
และตกอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากกองทัพนาซีที่ถูกลวงให้เข้าไปหนาวตายในรัสเซียระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งๆ ที่นาซีมียุทโธปกรณ์ครบมือ
.
คำตอบของข้อสอบ IELTS Listening ข้อ 31-40 คือสิ่งที่คุณจะได้มาจากคลิปเสียงคลิปสุดท้ายในห้องสอบ
.
คลิปเสียงที่ว่าเป็นการบรรยายเชิงวิชาการ หัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง
.
ที่คุณอาจไม่มีความรู้ในเรื่องราวหัวข้อนั้น
.
ตลอดคลิปเสียงนั้น มีคำศัพท์เชิงเทคนิคมากมายถูกบรรยายออกมา
.
คำเหล่านั้น “ไม่ใช่คำตอบ”
.
หมายความว่าคุณ “ไม่ต้องฟังให้เข้าใจ”
.
เพียง “รู้เขา” แค่นี้ และใช้กลยุทธ์ “การหนี” (Flee)
.
ประการที่หนึ่ง จงเพิกเฉยต่อศัพท์เทคนิค (Terminology)
.
ประการที่สอง จงหนีจากหลุมพรางด้าน Terminology
.
ประการที่สาม จงวิ่งหนีไปหา Synonym และ Dictation
.
สำหรับการหา Synonym นั้น…
.
สมมติว่า ในส่วน Question ข้อ 31 มีข้อความว่า “xxx xxxxx xxxxx xxx xxxxx large _______ .”
.
นั่นหมายความว่า ให้เราเงี่ยหูฟังหาคำที่มีความหมายเหมือนหรือคล้ายคำว่า “large” เท่านั้น โดยไม่ต้องโฟกัสกับ Terminology โดยรอบ
.
แล้วเขียน “คำนาม” ลงในช่องว่างโดยสะกดให้ถูกต้อง (Dictation) ตามที่ในคลิปเสียงบอกเราว่าสิ่งนั้นมีขนาดใหญ่
.
เพื่อนำไปสู่ชัยชนะ หรือ คำตอบที่ถูกต้อง
.
เพียงแค่ “หนี” จาก Terminology
.
เพราะถ้าไม่หนี ต่อให้หูดีแค่ไหน หรือรู้ศัพท์มากมายเท่าไร ก็อาจถูกข้อสอบลวงให้ตอบผิดได้
.
และนี่คือปฐมบทของกลยุทธ์พิชิตคะแนน IELTS Listening
.
อิม วรินทร์พรรณ์
.
Cr. ภาพจาก https://www.newscenter1.tv/